| |
บทคัดย่อ/Abstract |
วิทยานิพนธ์นี้เป็นการศึกษาถึงอิทธิพลของเถ้าใยปาล์มน้ำมัน และเถ้าแกลบที่มีต่อกำลังและพฤติกรรมการรับโมเมนต์ดัด ของแผ่นบางที่ทำจากคอนกรีตเสริมใยแก้ว โดยเถ้าใยปาล์มน้ำมันและเถ้าแกลบมาอบด้วยตู้อบที่อุณหภูมิ 105-110 องศา เซลเซียส จากนั้นนำไปบดด้วยเครื่อง Los Angeles Machine เป็นเวลา 12 ชั่วโมง จนอนุภาคค้างบนตะแกรงมาตราฐานเบอร์ 325 ร้อยละ 2.52 และ 3.72 ตามลำดับ เถ้าใยปาล์มน้ำมันและเถ้าแกลบถูกนำมาแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 1 ใน อัตราส่วนร้อยละ 0 10 20 30 และ 40 โดยน้ำหนัก การศึกษาประกอบด้วยคุณสมบัติทางกายภาพและทางกล ได้แก่ ค่ากำลัง ดัดเทียบเท่า กำลังอัดและการดูดซึมน้ำทำการทดสอบที่มีอายุ 7 28 56 และ 180 วัน กำลังอัดของซีนเมนต์มอรืตาร์ตามมาตราฐาน ASTM 190-95 ส่วนกำลังเทียบเท่าและการดูดซึมน้ำของแผ่นบางที่ทำจากคอนกรีตเสริมใยแก้วทดสอบตามมาตราฐาน BSEN 1170-5:1993 จากผลการศึกษาพบว่าการแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์แลนด์ด้วยเถ้าใยปาล์มน้ำมันและเถ้าแกลบ มีผลกระทบต่อกำลัง และพฤติกรรมการรับโมเมนต์ดัดของแผ่นบางที่ทำจากคอนกรีตเสริมใยแก้ว โดยเถ้าแกลบให้กำลังและพฤติกรรมดีกว่าเถ้าใย ปาล์มน้ำมัน และดีกว่าตัวอย่างควบคุมที่ไม่ได้แทนที่ด้วยเถ้าปาล์มน้ำมันและเถ้าแกลบ นอกจากนี้ยังพบว่า อายุการบ่มในน้ำ มีผลต่อกำลังและพฤติกรรมการรับโมเมนต์ดัดของแผ่นบางที่ทำจากคอนกรีตเสริมใยแก้วที่แทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์แลนด์ด้วย เถ้าใยปาล์มน้ำมันและเถ้าแกลบและตัวอย่างควบคุมที่ไม่ได้แทนที่ด้วยเถ้าปาล์มน้ำมันและเถ้าแกลบ โดยสามารถสังเกตเห็น ได้ว่าค่า LOP และค่า MOR สูงขึ้น เมื่ออายุการบ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามค่า MOR ของตัวอย่างควบคุมมีแนวโน้มคงที่หลัง อายุ 28 วัน สำหรับการแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์แลนด์ด้วยเถ้าใยปาล์มน้ำมันที่เหมาะสม พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 10 และการแทนที่ แทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์แลนด์ด้วยเถ้าแกลบที่เหมาะสม พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 10-30 ในการวิจัยครั้งนี้ แนะนำให้แทนที่แทนที่ปูน ซีเมนต์ปอร์แลนด์ด้วยเถ้าใยปาล์มน้ำมันในอัตราส่วนร้อยละ 10 และแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์แลนด์ด้วยเถ้าแกลบในอัตราส่วน ร้อยละ 20
This thesis was to study the influence of oil palm fiber ash and rice husk ash to the strength and beahviour in receiving shear and bending moment of thin sheet made of glass fiber reinforced concrete. The oil palm fiber and the rice husk ashes were baked by baker at the temperature of 105110 "c. After that they had been ground by Los Angeles Machine for 12 hours, until particles was left on the standard sieve No. 325 at percentages of 2.52 and 3.72 respectively. Oil palm fiber and rice husk ashes were used to replace the Portland cement type I in the ratio of 0%, 10%, 20%, 30% and 40% by weight. The study consisted of physical and mechanical properties as follows: Equivalent bending strength, compressive strength and water absorption. They were tested at the age of 7, 28, 56 and 180 days. The Mortar compressive strength of cement was tested following ASTM C 190-95 standard, while the equivalent bending strength and water absorption were tested following BS EN 1170-5: 1998. From results , it was found that the replacement of Portland cement by the oil palm fiber and rice husk ashes had an effect on strength and behaviour in receiving shear and bending moment of thin sheet made of glass fiber reinforced concrete. The rice husk ash had a better strength and behaviour than the oil palm fiber ash. This rice husk ash cement was even better than the control sampling which had no oil palm fiber and the rice husk ashes. Furthermore, it was found that the curing age in water had an effect to strength and behaviour in receiving shear and bending moment of all 3 types of thin sheet made of glass fiber reinforced concrete , the oil palm fiber ash, the rice husk ash and the control sampling which had no oil palm fiber and rice husk ashes. It was observed that the values of LOP and MOR was greater as the curing age was longer. However, the value of MOR of the control sampling seemed to be constant after curing age of 28 days. For the suitable ratio for replacement of the Portland cement by oil palm fiber ash was found at 10% while it was 10%-30% for the rice husk ash. This research recommended that the ratio for the replacement of the Portland cement by the oil palm fiber and the rice husk ashes was 10% and 20% respectively. |
