|
บทคัดย่อ/Abstract |
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1)เพื่อศึกษาวิถีขอเยาวชนไทยมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และเปรียบเทียบระหว่างเยาวชนในชนบทและในเมือง2)เพื่อศึกษาวิถีชีวิตตามความคาดหวังของสังคมมุสลิมและเปรียบเทียบวิถีชีวิตในปัจจุบันตามความคาดหวังของสังคมมุสลิมและ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะต่อวิถีการดำเนินชีวิตตามความคาดหวังของสังคมมุสลิม ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งเบข้อมูลเชิงปริมาณโยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกจำนวน1,800คน และปะชาชนท่วไปจำนวน 1,800คน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมเอสพีเอสเอส ฟอร์ วินโดวส์ และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก จำนวน 36 คน และสัมภาษณ์กลุ่มจำนวน2กลุ่ม และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยหลักตรรกเทียบเคียงแนวความคิดทฤษฎีและงานวิจัยควบคู่บริบท ผลของการวิจัย พบว่า เยาวชนมุสลิมส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับความคาดหวังของสังคมมุสลิมและขัดกับหลักการศาสนาอิสลาม กล่าวคือ เยาวชนมีการคบเพื่อนเพศเดียวกันแบบไร้เขตจำกัดและมีอิสระเสรี มักทำกิจกรรมที่ไร้สาระ สร้างความเดือดร้อน มีการคบเพื่อนต่างเพศอย่างเปิดเผย มีอิสระและคบเหมือนชาวตะวันตก มีการจับมือถือแขน กอดจูบ แลถึงขั้นมีเพสสัมพันธ์ก่อนสมรส มีการให้ความสำคัญกับการศึกษาวิชาสามัญมากกว่าชาวศาสนา ไม่รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีการเกี่ยวข้องกับอบายมุข ไม่มีงานทำ มีการแต่งกายเชิงประยุกต์เพื่อให้ทันสมัยและเลียนแบบตะวันตกดาราและนักร้องมีความสัมพันธ์กับครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านและชุมชนอย่างห่างเหินและขาดสัมพันธภาพที่ดีต่อกันมีการละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติศาสนกิจ ไม่ให้ความสำคัญและหลีกเล่ยงการบำเพ็ญประโยชน์และเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน และส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเยาวชนมีส่วนร่วมในสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบัน โดยเยาวชนในเมืองและในชนบทมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันเกือบทุกด้าน ข้อเสนอแนะต่อกาดำเนินชีวิตของเยาวชนมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1)ผู้นำศาสนาต้องปลูกฝังจิตสำนึกของเยาวชนให้มีชีวิตตามแนวทางศาสนาอิสลามและตามฉบับของท่านศาสดามุฮัมมัด และต้องมีการจัดอบรมจริยธรรมอิสลามอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึง 2)พ่อแม่ผู้ปกครองต้องให้เวลา ให้ความนใจ ให้คำปรึกษา พูดคุยเรื่องศาสนา และที่สำคัญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกๆและส่งเสริมให้เรียนศาสนาควบคู่กับสามัญ 3)รัฐต้องห้ามไม่ให้มีอบายมุขและสิ่งของมึนเมาทุกประเภทในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ม่ว่าจะเป็นร้านเหล้า เบียร์ คาราโอเกะ ผับ บาร์ 4)รัฐต้องให้การบริการศึกษาตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงปริญญาตรีที่ให้เปล่าจริงๆและอุดหนุนค่าใช้จ่ายอื่นๆไม่ว่าจะเป็นอาหาร หนังสือเรียน เสื้อผ้า ละอื่นๆ และที่สำคัญที่สุดควรมีการเรียนสามัญควบคู่ศาสนา 5)รัฐควรส่งเสริมและพัฒนาอาชีพที่มั่นคงแก่เยาวชน 6)รัฐควรพัฒนาโรงเรียนตาดีกาอ่างเป็นระบบทั้งระบบเงินเดือน สวัสดิการ อาคาร ห้องเรียน หนังสือเรียน ละพัฒนาครูผู้สอนทีมีความชำนาญ 7)รัฐต้องควบคุมสื่อโทรทัศน์ทุกชนิดที่มีลักษณะผิดหลักการศาสนาอิสลามมิให้มีการแพร่ภายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และเปิดให้มีรายการที่ส่งเสริมคุณธรรมจริธรรม 8)รัฐควรให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีบทบาทในการดูแลเยาวชนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศที่ผิดหลักการ การแต่งกายที่ผิดหลักการ เรื่องอบายมุข และอื่นๆ 9)รัฐต้องให้มีกรใช้กฎหมยอิสลามมาบังคับใช้อย่างจริงจังและให้ถือเป็นกฎหมายที่สูงสุดเด็ดขาด เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการแต่งกาย การคบเพื่อนต่างเพศ และการประพฤติอื่นๆที่ผิดหลักการศาสนา<br />
The objectives of this research are 1) to study Thai Muslim youth?s way of life in three southern border provinces of Thailand and comparing the way of life in the rural areas with that in urban ones, 2) to study the way of life as being expected by Muslim society and comparing the way of life as seen at present with that as being expected and looked for by Muslim society, and 3) to study suggestion with regard to the way of life which is expected by Muslim society and seemed appropriate to the Thai Muslim youth in the three southern border provinces of Thailand. The research is both quantitative and qualitative. Quantitatively, the researchers collected data by interviewing 1,800 Muslim youth and 1,800 Muslim people, and using SPSS For Windows Computer Program in analyzing the data. Qualitatively, the researchers collected the data concerned by in-depth interviewing, 36 key-informants and 24 focus groups, and using logic in analyzing the data and comparing theoretical concept with the relevant research.The research results in finding that most of Muslim youth did not lead their life in conformity with expectations of Muslim society and Islamic principles namely the youth of the same sex made and maintained relationship among themselves on totally limitless and free basis. They often carried out trifling or useless activities, caused nuisance to the public, and freely and frankly lived together on sex-equality basis the life style of which is seen as a common phenomenon in the modern western world. They shook hand, kissed and, in some cases, had unlawful sexual relation (intercourse) before marriage. They preferred general subjects to religious ones. They did not know how to make use of spare time, got involved in misdeeds, were unemployed, and dressed themselves with fashionable garments, imitated styles and manners of western singers and film stars. Their relation with their family, relatives as well as neighbors was not on good terms. They did not heed religious practices, nor did they give importance to any role they might play at interest of the community. Similarly they did not participate in social services. Most of them though that Muslim youth took part in the current unrest in the southern border provinces. It is clear that the rural Muslim youth are different from the urban in terms of their way of life, nearly in all respects.Suggestions for the Muslim Youth to lead their life properly in the three southern border provinces;1) Muslim Religious leadership need to imbue the youth with Islamic awareness so as to lead their life in accordance with Islamic way of life and prophetic tradition. Camping is also needed, from time to time, to offer the youth Islamic moral and ethical lessons.2) Parents should give their children sufficient time, care and advices. They must talk with them in religious, be good example for them, and encourage them to learn both religious and general subjects.3) The government must inhibit all sorts of misdeeds and intoxicating things, for example, liquor and beer shops, Karaoke, pubs and bars in the three southern border provinces.4) The government must offer free education from elementary to graduate level to the youth and, in addition, support them in other expenditures such as food, curriculum books, uniform. Etc. The most important is the incorporation of religious subjects in the curriculum along with general ones in the schools of this area.<br />
5) The government should promote and develop stabilized and long-term professions for the youth.6) The government should systematically develop and improve Tadika in terms of its salary, welfares, building, classrooms, and curriculum books. The quality and efficiency of its teachers should also be upgraded.7) The government must strictly put control on the mass media circulated or operated in the three provinces, and does not allow them to publish and spread or air any things in opposition to Islam. Programs related to ethical and moral training should also be promoted.8) The government should authorize the provincial Islamic Councils in the three southern border provinces to take care of the youth, especially oversee and monitor their misconduct in terms of their sexual behavior, clothing, and other deeds opposed to Islamic values.9) The government must enforce Islamic law above all other laws in the three southern border provinces in connection with clothing, different sex relations and other behaviors opposed to Islam. |