ชื่อเรื่อง/Title Bullying Among Lower Secondary School Students in Pattani Province / พฤติกรรมการรังแกของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดปัตตานี
     บทคัดย่อ/Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของพฤติกรรมการรังแกของนักเรียน
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดปัตตานี รวมทั้งสร้างสมการเพื่อทำนายปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีพฤติกรรมรังแก ด้วยการศึกษาแบบตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของจังหวัดปัตตานี จำนวน 244 คน อายุระหว่าง 12-19 ปี เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามในเดือนธันวาคม 2549 จาก กลุ่มตัวอย่างนอกบริเวณโรงเรียนในจังหวัดปัตตานี ข้อคำถามอ้างถึงพฤติกรรมการรังแกย้อนหลัง 6 เดือนที่ผ่านมาและ 1 เดือนก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นกับตัวแปร ตามด้วยไคสแควร์ สร้างสมการด้วยการถดถอยพหุแบบโลจิสติกส์ ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีความชุกของพฤติกรรมการรังแกร้อยละ 18.5 (95% CI: 13.6-23.4) โดยพบว่าเพศไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรังแก กล่าวคือนักเรียนชายและนักเรียนหญิงมีพฤติกรรมการรังแกไม่แตกต่างกัน ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรังแกคือ อายุ เชื้อชาติ พื้นที่ตั้งของโรงเรียน และการทะเลาะวิวาทกันของบิดา มารดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการที่พ่อ แม่ ใช้ความรุนแรงต่อกันจะส่งผลให้นักเรียนมีพฤติกรรมไปรังแกผู้อื่น อย่างไรก็ตามปัญหา เรื่องพฤติกรรมการรังแกของนักเรียนจะลดลงถ้าบิดา มารดาไม่ทะเลาะวิวาทกัน

This study aimed to investigate the prevalence of physical bullying and to identify a
suitable statistical model accounting for risk factors affecting physical bullying among
lower secondary school students in Pattani province, southern Thailand. A crosssectional
survey was conducted among 244 students aged 12 to 19 years by
questionnaire. All participants were interviewed in December 2006 in a neutral
location outside the schools. Questions on physical bullying referred to behaviour
during both the preceding six months and during the previous month. Pearson?s chisquared
test was used to assess the associations between the outcome and various
determinants. Logistic regression was used to identify risk factors for physical
bullying. The overall prevalence of physical bullying was found to be 18.5% (95% CI:
13.6-23.4). Gender was not significantly associated with bullying others. The outcome
was associated to a statistically significant degree with age group, ethnicity, school
type and parental violence. Specifically, the results from this study indicated that
students who had experience of parental violence were more likely to be bullies at
school. This study also provides some directions for attempting to reduce the
problems of bullying. It might be useful if teachers and other authorities assist parents
to reduce their own level of family violence as a way of helping their children.
     ผู้ทำ/Author
NameBoonyapat Yodprang
Organization มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
     เนื้อหา/Content
Cover
Abtract
Acknowledgement
Content
Chapter 1 Introduction
Chapter 2 Methodology
Chapter 3 Preliminary Data Analysis
Chapter 4 Further Statistical Analysis
Chapter 5 Conclusions and Discussion
Reference
Appendix
Vitae
     กลุ่มหัวเรื่อง: ด้านเศรษฐกิจและสังคม
--สตรีเด็กและเยาวชน
     Contributor:
Name: Metta Kuning
Roles: Advisory
     Publisher:
Name:มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
Address:ปัตตานี (Pattani)
     Year: 2550
     Type: วิทยานิพนธ์/THESES
     Copyrights :
     Counter : 3813
     Counter Mobile: 34