ชื่อเรื่อง/Title การมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลาม ในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดยะลา / Participation in Village Development of Islamic Education Teachers in Primary Schools in Changwat Yala
     บทคัดย่อ/Abstract ????การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดยะลา ศึกษาเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้าน ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษากับการมีส่วนร่วม ค้นหาตัวพยากรณ์ที่ดีนำมาสร้างเป็นสมการพยากรณ์ และศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะของครูสอนศาสนาอิสลามกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้าน ตัวแปรอิสระได้แก่ เพศ อายุ วุฒิการศึกษาสามัญ วุฒิการศึกษาทางศาสนา วุฒิทางการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน จำนวนชั่วโมงที่สอนต่อสัปดาห์ รายได้ การติดต่อสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ 6 กระทรวงหลักที่ปฎิบัติงานในท้องถิ่น ตัวแปรตาม คือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดยะลา <br /> กลุ่มตัวอย่างครูสอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดยะลา ปี 2536 เครื่องมืที่ใช้เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที ค่าเอฟ ทดสอบความแตกต่างรายคู่ดดยใช้วิธีการของเชฟเฟ่ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่าย และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ<br /> ????ผลการวิจัยพบว่า<br /> 1. ระดับการศึกษามีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลามทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ด้านความร่วมมือค้นหาปัญหาและสาเหตุของปัญหา 2) ด้านการร่วมวางแผนแก้ไขปัญหา 3) ด้านการร่วมปฎิบัติงานตามโครงการ และ4) ด้านการร่วมติดตามประเมินผล อยู่ในระดับปานกลาง<br /> 2. ผลการเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลาม ปรากฎดังนี้<br /> ????2.1 ครูสอนศาสนาเพศชายมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านสูงกว่าครูสอนศาสนาอิสลามเพศหญิง ื้ง 4 ด้าน<br /> ????2.2 ครูสอนศาสนาอิสลามที่ไม่มีวุฒิทางการศึกษา มีส่วนร่วมสูงกว่าครูสอนศาสนาอิสลามที่มีวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญา ด้านการร่วมค้นหาสาเหตุและสาเหตุของปัญหา ด้านการร่วมแก้ไขปัญหา<br /> ????2.3 ครูสอนศาสนาอิสลามที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 5-8 ครั้งต่อปี มีส่วนร่วมสูงกว่าครูสอนศาสนาอิสลามที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 1-4 ครั้งต่อปี และครูสอนศาสนาอิสลามที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 9-12 ครั้งต่อปีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในด้านการร่วมค้นหาปัญหาและสาเหตุของปัญหา ด้านการร่วมวางแผนแก้ไขปัญหา <br /> ส่วนในด้านการร่วมปฏิบัติงานตามโครงการ ครูสอนศาสนาอิสลามที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 5-8 ครั้งต่อปีมีส่วนร่วมสูง<br /> กว่า ครูสอนศาสนาอิสลามที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ 9-12 ครั้งต่อปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05<br /> ????2.4 ครูสอนศาสนาอิสลามที่มีความแตกต่างในด้านอายุ วุฒิการศึกษาสามัญ วุฒิการศึกษาทางศาสนา ประสบการณ์ในการทำงาน จำนวนชั่วโมงที่สอนต่อสัปดาห์ รายได้ มีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านไม่แตกต่างกัน<br /> 3. เพศ มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดยะลา ส่วนอายุ วุฒิการศึกษาสามัญ วุฒิการศึกษาทางศาสนา วุฒิทางการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน จำนวนชั่วโมงที่สอนต่อสัปดาห์ รายได้ การติดต่อสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ 6 กระทรวงหลักท่ปฏิบัติงานในท้องถิ่น ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดยะลา <br /> 4. ตัวพยากรณ์ที่ดีในการพยากรณ์การมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของครูสอนศาสนาอิสลามในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดยะลา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 คือเพศ<br /> 5. ปัญหาและอุปสรรคของครูสอนศาสนาอิสลามในการพัฒนาหมู่บ้านส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับประชาชนขาดความรู้ และไม่ให้ความร่วมมือในการพัฒนาหมู่บ้าน ผู้นำขาดประสิทธิภาพในการพัฒนา ข้อเสนอแนะให้เจ้าหน้าที่จัดอบรมสัมมนาเรื่อง การพัฒนาหมู่บ้านให้ประชาชนเลือกผู้นำชุมชนที่มีความรู้ความสามารถและมีความรับผิดชอบในการพัฒนาหมู่บ้าน

     ผู้ทำ/Author
Nameสุทัศน์ ดำศรี
Organization มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, บัณฑิตวิทยาลัย
     เนื้อหา/Content
หน้าปก
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
สารบัญ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 2 วิธีการวิจัย
บทที่ 3 ผลการวิจัย
บทที่ 4 การอภิปราผล...
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ประวัติผู้เขียน
     กลุ่มหัวเรื่อง: ด้านเศรษฐกิจและสังคม
--การมีส่วนร่วมทางสังคม
อิสลามศึกษา
     Contributor:
Name: มารุต ดำชะอม
Roles: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
     Publisher:
Name:มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
Address:ปัตตานี (Pattani)
     Year: 2538
     Type: วิทยานิพนธ์/THESES
     Copyrights :
     Counter : 2952
     Counter Mobile: 27