ชื่อเรื่อง/Title การประเมินการใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 / Assessment of the Implementation of Islamic Studies Curriculum based on the Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 in Educational Institutions Affiliated with Pattani Primary Educational Service Area Office 2
     บทคัดย่อ/Abstract การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา<br /> การใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2) เพื่อ<br /> ประเมินการใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551<br /> 3) เพื่อศึกษาแนวทางการใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน<br /> พุทธศักราช 2551 ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ให้<br /> มีประสิทธิภาพ โดยใช้แบบจำลองซิปป์ (CIPP) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebram) ประเมินองค์ประกอบ<br /> ด้านบริบท ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตที่เกี่ยวกับหลักสูตร กลุ่มตัวอย่างที่<br /> ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง<br /> โดยพิจารณาคุณสมบัติด้านคุณวุฒิ ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านหลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตร<br /> แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และครูผู้สอนที่ใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตาม<br /> หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่<br /> การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 จำนวน 100 คน โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือวิจัย<br /> ประกอบด้วยแบบสอบถามออนไลน์ (Google forms) และสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง ผลการศึกษา<br /> พบว่า<br /> 1. ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหาการใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตร<br /> แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา<br /> ประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 พบว่า 1) ด้านการจัดการเรียนการสอน พบว่า หลักสูตรที่มีการสอน<br /> รายวิชาสามัญควบคู่ศาสนา มีรายวิชาที่มากเกินไป ทำให้เวลาเรียนไม่เพียงพอ 2) ด้านครูผู้สอน<br /> พบว่า ครูผู้สอนไม่ได้จบตรงสาขา ทำให้มีอุปสรรคในการใช้หลักสูตร ไม่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้<br /> ได้อย่างถ่องแท้ ขาดความรู้ความเข้าใจในการจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ถูกต้องได้ และ 3) ด้านการ<br /> จัดสรรงบประมาณ พบว่า โรงเรียนไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษา ทำให้ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน เช่น ขาดแคลนหนังสือเรียน สื่อการ<br /> สอนต่าง ๆ<br /> 2. ความคิดเห็นของครูต่อการประเมินการใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตร<br /> แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ใน 4 ด้าน ด้านบริบท ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้าน<br /> กระบวนการ และด้านผลผลิต โดยภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก<br /> 3. ผลการวิเคราะห์แนวทางการใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง<br /> การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา<br /> ประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ให้มีประสิทธิภาพ ควรมีแนวทาง ดังนี้ 1) การจัดการเรียนการสอนแบบ<br /> บูรณาการรายวิชา 2) การเลือกเครื่องมือการเรียนรู้ สื่อทำมือ และสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เหมาะสม<br /> สำหรับการเรียนรู้อิสลามศึกษา 3) การสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะด้านงบประมาณ<br /> ในการจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน บุคลากรหรือวิทยากรอิสลามศึกษา การอบรมและ<br /> สัมมนา 4) การสร้างกิจกรรมการเรียนรู้อิสลามศึกษาโดยการออกแบบกิจกรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้<br /> และทักษะต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จริงและสามารถปฏิบัติได้ (5) การวัดและ<br /> ประเมินผลด้วยวิธีที่หลายหลาย เช่น การใช้แบบทดสอบเพื่อวัดความความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่<br /> เรียนและแบบสังเกตเพื่อประเมินการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม 6) การติดตามการใช้หลักสูตร<br /> อิสลามศึกษาโดยการนิเทศติดตามและประเมินความคืบหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และ 7) การ<br /> ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรอิสลามศึกษาผ่านการทบทวนหลักสูตรและจัดกิจกรรมปรับปรุงการ<br /> เรียนรู้ตามผลการประเมิน

This study is survey research and aims to 1) examine the problems<br /> relating to the implementation of Islamic education curriculum based on the basic<br /> education core curriculum of B.E. 2551, 2) assess the utilization of Islamic education<br /> curriculum based on the basic education core curriculum of B.E. 2551, and 3) study<br /> the guidelines for effective implementation of Islamic education curriculum based on<br /> the basic education core curriculum of B.E. 2551 in schools under Pattani Primary<br /> Educational Service Area Office 2, using Stufflebeam?s model CIPP (Context, Input,<br /> Process, and Product). The sample includes six qualified individuals who were<br /> purposively selected based on their qualifications and expertise related to the<br /> curriculum. 100 teachers who teach Islamic education curriculum based on the basic<br /> education core curriculum of the B.E. 2551 in schools under Pattani Primary<br /> Educational Service Area Office 2 were randomly selected. The research tools consist<br /> of an online questionnaire (Google Forms) and semi-structured interviews. The study<br /> findings revealed the following:<br /> 1. Results of analysis of the problems relating to the implementation of<br /> Islamic education curriculum based on the basic education core curriculum of B.E.<br /> 2551 in Pattani Primary Educational Service Area Office 2 as follows: (1) the curriculum<br /> has an overwhelming amount of subjects, including general and religious subjects,<br /> which results in inadequate teaching time, (2) some teachers lack specialized<br /> qualifications, causing them to ineffectively transmit knowledge and develop appropriate learning plans, (3) budget allocation for Islamic education is insufficient,<br /> resulting in a lack of textbooks and teaching materials.<br /> 2. The overall and each item score levels of teachers? opinion on the<br /> assessment of the use of Islamic education curriculum based on the basic education<br /> core curriculum of the B.E. 2551 in four aspects: context, input, processes, and<br /> outcomes were high.<br /> 3. The results of the analysis of guidelines for effective implementing<br /> Islamic education curriculum based on the basic education core curriculum of the B.E.<br /> 2551 in schools under Pattani Primary Educational Service Area Office 2 as follows: 1)<br /> the method of instruction and learning used was subject-integrated; 2) choosing<br /> appropriate learning tools, such as hands-on or interactive materials and digital media,<br /> for Islamic instruction; 3) securing funding for textbooks, staff, Islamic education<br /> instructors, training sessions, and seminars, among other things, from pertinent<br /> organizations; 4) creating educational activities that help students learn and grow in a<br /> variety of areas so they can acquire real-world experience and useful skills; 5) utilizing<br /> a variety of asseesment and measurement techniques, such as tests to measure<br /> students? knowledge and comprehension of the contents learned and observation<br /> assessment form to assess their application of Islamic principles; 6) following up Islamic<br /> education curriculum implementation and monitoring teaching and learning and<br /> evaluate their progress according to the established goals; and 7) Islamic education<br /> curriculum was revised and activities were arranged in accordance with assessement<br /> findings.
     ผู้ทำ/Author
Nameยาวารี สะนิ
Organization มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี. คณะศึกษาศาสตร์
     เนื้อหา/Content
Cover
Abstract
Acknowledgements
Contents
Chapter1
Chapter2
Chapter3
Chapter4
Chapter5
References
Appendix
Vitae
     กลุ่มหัวเรื่อง: อิสลามศึกษา
     Contributor:
Name: อับดุลฮากัม เฮ็งปิยา
Roles: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
     Publisher:
Name:มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
Address:ปัตตานี (Pattani)
     Year: 2566
     Type: วิทยานิพนธ์/THESES
     Copyrights :
     Counter : 10
     Counter Mobile: 0